กินน้อยตายยาก กินมากตายไว
อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 18

แคลลอรี่เรสตริกชั่นต่างจากการฟาสติ้งอย่างไร ?
แคลลอรี่เรสตริกชั่นคือการลดปริมาณแคลลิรี่รวมจากการรับประทานอาหารต่อวันลง โดยยังต้องได้รับสารอาหารต่างๆ หลากหลายและครบถ้วนทั้งปริมารและคุณภาพ
ฟาสติ้งคือการจำกัดช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร เช่น อนุญาติให้รับประทานอาหารได้หกชั่วโมงต่อวัน เวลาที่เหลือจากนั้น ห้ารับประทานอาหารต่างๆ ที่มีแคลลอรี่ เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารแบบแคลลี่เรสตริกชั่น อาหารที่รับประทาน ควรมีความหลากหลายและมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนทั้งปริมาณและความหลากหลายของสารอาหาร
กลไกการทำงานของการฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่นคืออะไร ?
เมื่อเราลดแคลอรี่จากการรับประทานอาหาร จะเกิดผลกระทบลูกโซ่ต่อระบบต่างๆของร่างกาย เช่น เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบ การเผาผลาญน้ำตาล การสร้างและสลายโปรตีน การผลิตพลังงานให้กับเซลล์ ความเครียดในระดับเซลล์และการเปลี่ยนแปลงของ DNA
ในช่วงที่ร่างกายอดอาหาร จะมีการใช้น้ำตาลและไกลโคเจนจนหมด จากนั้นจะใช้ไขมันที่สะสมไว้ตามส่วนต่างๆเปลี่ยนเป็นพลังงานโดยกระบวนการสร้างพลังงานจากไขมันสะสมนี้จะสร้างสารที่มีชื่อว่า คีโตน ซึ่งคีโตนนี้เป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพกว่าน้ำตาล และอาจมีผลในการชะลอความเสื่อมของสมอง
คีโตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการลดการอักเสบ ลดระดับอินซูลินในเลือดซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวานเซลล์มะเร็งไม่สามารถใช้พลังงานในรูปของคีดดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกัน การมีคีโตนในร่างกายมากเกินไปก็สามารถส่งผลเสียได้
ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการชะลอความชรา แต่ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก
จากงานวิจัยพบว่า ในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน การรับประทานอาหารแบบการฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่น ช่วยในการลดน้ำหนักและดีต่อสุขภาพ
งานวิจัยที่สนับสนุนการฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่น
จากงานวิจัยพบว่าการลดแคลอรี่ลง 10-40% ในหนู เพิ่มอายุของหนูให้ยืนยาวขึ้น และลดการเกิดโรคโดยเฉพาะโรคมะเร็ง
งานวิจัยในมนุษย์พบว่า ช่วยลดการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
จากการติดตามผลสองปีหลังการทดลองพบว่า การฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่น ช่วยในการลดน้ำหนักได้
การฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่น ปลอดภัยหรือไม่
การฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่นช่วยในการลดความดันโลหิต และลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบ
และยังพบว่า ไม่มีผลเสียที่เกี่ยวข้องกับ คุณภาพชีวิต อารมร์ความต้องการทางเพศหรือการนอนหลับ อย่างไร ก็ดีผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์
การฟาสติ้งและแคลลอรี่เรสติกชั่นมีหลากหลายวิธีเลือกวิธีที่เหมาะกับคุณ
ตัวอย่างเช่น
การอดอาหารเป้นระยะ ตัวอย่างเช่น แบบ 5:2 คือการรับประทานอาหารปกติ 5 วันตามด้วยการจำกัดแคลอรี่ 2 วัน
จำกัดเวลาในการรับประทาน ตัวอย่างเช่น 6:18 คือรับประทานอาหารได้ 6 ชั่วโมงในหนึ่งวัน และไม่รับประทานอาหารเลย เป็นเวลา 18 ชั่วโมง
วันเว้นวัน รับประทานอาหารปกติ สลับกับการจำกัดแคลลอรี่หรืออดอาหารในวันถัดไป